“ลลิล” เปิดช่องลูกค้าผ่อนดาวน์บ้าน เสริมกำลังซื้อเรียลดีมานด์

จากความสำเร็จในการพัฒนาแบรนด์บ้านระดับพรีเมียม ที่สะท้อนอัตลักษณ์แบบหรูหรา โดยได้พลิกโฉมการพัฒนาใหม่ในทุกส่วน ภายใต้แบรนด์” บ้านลลิล The Prestige “ ระดับราคา 5-8 ล้านบาท เพื่อเจาะกำลังซื้อระดับบนโดยเฉพาะ ทั้งได้อัพเกรดวัสดุตกแต่งก่อสร้างให้พรีเมียมยิ่งขึ้น และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ให้รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในปัจจุบันที่มุ่งเน้นด้านการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ได้พัฒนาไปแล้ว 2 โครงการแรกในย่านประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ และย่านวงแหวนฯ และล่าสุดขยายทำเลใหม่ในโซนเหนือของกรุงเทพฯ ย่านลำลูกกา-คลอง 6


ชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรก(ม.ค.-มี.ค.2566) มีการฟื้นตัวแบบอ่อนแอ เนื่องจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับที่สูง 88% ซึ่งจะมีผลต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์ชิ้นใหญ่ มีภาระหนี้ผูกพันธ์ระยะยาว ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 2 นั้นน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากภาคการท่องเที่ยวเติบโตอย่างมาก


ส่วนการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าตามแผนงานวางไว้เปิด 10-12 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 7,000-8,000 ล้านบาทในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล จับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) เป็นหลัก โดยล่าสุด เปิดตัวโครงการ”บ้านลลิล The Prestige” ลำลูกกา-คลอง 6 บนเนื้อที่ 46 ไร่ รวม 265 ยูนิต ระดับราคา 4-7 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าระดับราคา 4-7 ล้านบาท ยังคงเป็นตลาดที่ขยายตัวมากที่สุด แต่การแข่งขันก็ย่อมสูงเช่นกัน ทั้งนี้บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าให้เกิดความแตกต่างโดยนำแนวคิดการออกแบบ French Colonial Style เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค พร้อมพัฒนาฟังก์ชันที่สามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง ที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้


บ้านลลิล The Prestige” มีความโดดเด่นและแตกต่าง มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ประกอบด้วย แบบบ้าน EMPEROR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 196 ตร.ม. แบบบ้าน IMPERIAL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม. แบบบ้าน GORGEOUS A/B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. แบบบ้าน GARISH/GRACE บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.


นอกจากนี้ ศักยภาพของทำเลย่านลำลูกกา ที่สามารถพัฒนาให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต ทั้งด้านคมนาคม ที่มีการพัฒนาถนนสายหลักและทางด่วนจำนวนหลายเส้นทาง อาทิ ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนรังสิต-นครนายก, ถนนบางขันธ์-คลองหลวง, ถนนสายไหม และถนนรามอินทรา และด้วยทำเลที่มีศักยภาพในการเดินทางนั้นจะช่วยให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือเดินทางออกต่างจังหวัดได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายคูคต-ลำลูกกา ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเดินทางได้เข้าเมืองสะดวกมากยิ่งขึ้น


“กลุ่มเป้าหมายของบ้านลลิล The Prestige วงแหวนฯ-ลำลูกกา คลอง 6 อยู่ในช่วงอายุ 27-45 ปี เพราะมองว่าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยโครงการนี้เริ่มเปิดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 20 ยูนิต มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะปิดการขายทั้งโครงการได้ในปี 2568” ชูรัชฏ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันภาวะกำลังซื้อที่ยังเปราะบาง เป็นสาเหตุที่ทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินชื่อ ดังนั้น บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การขาย โดยเน้นขายสินค้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างมากขึ้น ด้วยการขายบ้านในลักษณะผ่อนดาวน์เพิ่มขึ้น เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านมีเวลาในการเตรียมความพร้อมก่อนการกู้สินเชื่อ จากเดิมที่ขายบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย


สำหรับในปี 2566 บริษัทวางเป้ารายได้ 6,850 ล้านบาท เติบโต 10% จากปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) 1,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด และวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 8,600 ล้านบาท เติบโต 10% สำหรับไตรมาส 1/2566 มียอดขาย แล้ว 2,000 ล้านบาท ใกล้กับช่วงเดียวกันปีก่อน จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *