จาก “สถานทูตญี่ปุ่น” สู่ “สิงห์ คอมเพล็กซ์”

ย้อนตำนานที่ดินสถานทูตญี่ปุ่นสู่ “สิงห์ คอมเพล็กซ์” ปั้นอโศก-เพชรบุรี ขึ้นแท่นทำเลลักซัวรี่

แม้จะสร้างเสร็จมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ “สิงห์ เอสเตท” เพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัวโครงการลักชัวรีมิกซ์ ยูส แห่งแรกในย่านอโศก-เพชรบุรี “สิงห์ คอมเพล็กซ์” เป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันมานี้

หากย้อนตำนานที่ดินแแปลงนี้ ก่อนที่จะมาเป็น “สิงห์ คอมเพล็กซ์” ที่ดินราวๆ 9 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนอโศกมนตรีตัดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่แห่งนี้ เคยเป็นที่ตั้งสถานทูตญี่ปุ่นและองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า จนเมื่อประมาณ ตุลาคม 2553 บริษัท คลอลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้รับแต่งตั้งจากสถานทูตญี่ปุ่นให้เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ดินแปลงนี้ ภายหลังจากที่สถานทูตได้ย้ายทีทำการไปอยู่บนถนนวิทยุ

หลังจากเปิดให้ยื่นประมูลในวันที่ 15 ก.พ. 2554 ในที่สุดประมาณเดือน เม.ย. 2554 กลุ่มเบียร์สิงห์ ตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ก็คว้าที่ดินบริเวณหัวมุมถนนอโศกมนตรีตัดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ผืนนี้ไป ในราคาต่ำกว่า 4.7 แสนบาท/ตารางวา คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,600 ล้านบาท (ณ เวลานั้น) ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับคนในวงการอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก เพราะในเวลานั้น กลุ่มเบียร์สิงห์ ยังไม่ได้กระโดดลงสนามอสังหาริมทรัพย์

ในช่วงเวลาดังกล่าว มีเพียงกระแสข่าวว่า กลุ่มเบียร์สิงห์ จะสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ให้กับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัทผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวภิรมย์ภักดี หลังจากนั้น ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอีกเลยว่า กลุ่มเบียร์สิงห์จะนำที่ดินแปลงนี้มาพัฒนาในรูปแบบใด

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 ครอบครัวภิรมย์ภักดีได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง เมื่อกลุ่มเบียร์สิงห์ได้เทคโอเวอร์บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)” พร้อมกับดึงมืออาชีพ “นริศ เชยกลิ่น” อดีตผู้บริหารจากเซ็นทรัลพัฒนา (ซีพีเอ็น) ผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล มานั่งเก้าอี้ ซีอีโอ ให้กับ สิงห์ เอสเตท

พร้อมกับเปลี่ยนชื่อย่อหุ้น จาก RASA เป็น S และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้งในนาม S วันที่ 26 ก.ย. 2557 ถือเป็นการผงาดเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เต็มขั้น และประกาศใช้กลยุทธ์เทคโอเวอร์ทั้งโครงการและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึง เปิดเผยพัฒนาที่ดินราวๆ 9 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนอโศกมนตรีตัดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่แห่งนี้ด้วย

ถ้านับจากจุดเริ่มต้นของที่ดินแปลงนี้ที่อยู่ในมือกลุ่มเบียร์สิงห์ จากปี 2554 จนถึงปี 2561 ก็ราวๆ 7 ปีแล้ว ตลอด 7 ปี กรุงเทพฯ มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากที่หลายคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมสิงห์ถึงยอมจ่ายที่ดินตารางวาละเกือบ 5 แสนบาท เพื่อซื้อที่ดินที่ค่อนไปทางเพชรบุรี ซึ่งอาจไม่ใช่ที่ดินที่ไพร์มมากในเวลานั้น เขามองเห็นอะไร?

เช่นเดียวกับเมื่อปี 2557 ที่สิงห์ เอสเตท ประกาศแผนจะพัฒนาที่ดินแปลงนี้เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ และคอนโดมิเนียมระดับลักซัวรี่ หลายคนยังมีข้อกังขา ทำเลเพชรบุรี-อโศก จะไต่ระดับไปแตะทำเลลักซัวรี่ได้จริงหรือไม่

แต่จนวันนี้ คงไม่มีใครตั้งคำถามนั้นแล้ว เพราะคงพิสูจน์แล้วว่า เพชรบุรี-อโศก ที่ตั้งของสิงห์ คอมเพล็กซ์ ก้าวขึ้นแท่นความเป็นลักซัวรี่แล้ว

‘สิงห์ คอมเพล็กซ์’ เดอะ ลักชัวรี มิกซ์ ยูส คอมเพล็กซ์ โครงการลักชัวรี มิกซ์ ยูส บริเวณหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรีอย่างเป็นทางการ โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอ “ดิ ออฟฟิศ แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์” 42 ชั้น ที่มีโซนพื้นที่ค้าปลีกรวมร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังกว่า 30 ร้าน และคอนโดมิเนียมลักชัวรี “ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์” สูง 39 ชั้น จำนวน 319 ยูนิต

จากทำเลที่ตั้งเดิมของสถานทูตญี่ปุ่น ณ บริเวณหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรี สู่ทำเลศักยภาพในย่านเขตธุรกิจใหม่ของกรุงเทพมหานคร การเป็นจุดศูนย์กลางคมนาคม ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเพชรบุรี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ท่าเรืออโศกคลองแสนแสบ และทางพิเศษศรีรัช ทำให้ สิงห์ เอสเตท บริษัทชั้นนำ

นริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าว “สิงห์ คอมเพล็กซ์ สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ประวัติศาสตร์ รวมถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อเจาะตลาดพรีเมียมของบริษัทฯ ผ่านการพัฒนาและออกแบบอย่างพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด มีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยในส่วนของอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีให้สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด บนพื้นฐานของความตั้งใจของ สิงห์ เอสเตท ที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ในการใช้ชีวิต (Premier Lifestyle Developer) ส่งมอบคุณภาพที่ดีที่สุดทั้งสินค้าและบริการ และที่สำคัญคือการส่งเสริมสังคมและสภาพแวดล้อมให้ยั่งยืน”

สิงห์ คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมลักชัวรี “ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์” (THE ESSE at SINGHA COMPLEX) ความสูง 39 ชั้น จำนวน 319 ยูนิต ซึ่งจะมีการส่งมอบให้กับลูกค้าในช่วงปลายปี 2562 และอาคารสำนักงานให้เช่าพร้อมพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า ความสูง 42 ชั้น แบ่งเป็น อาคารสำนักงานเกรดเอ “ดิ ออฟฟิศ แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์” (THE OFFICE at SINGHA COMPLEX) สมาร์ทออฟฟิศแห่งใหม่บนถนนอโศก เพชรบุรี โดดเด่นออกแบบด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยการใช้ชีวิตทำงาน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

และส่วนพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังกว่า 30 ร้าน พร้อมมีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่ออกกำลังกายลู่วิ่งจ็อกกิ้งบนดาดฟ้า (Rooftop Jogging Track) และพื้นที่ทำงานแบบ Co-working space ซึ่งอยู่ในส่วนของ “Amphitheatre” เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่เปิดให้ผู้มาใช้บริการสามารถทำงานและพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย รวมทั้งการบริการระดับมืออาชีพตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว นอกจากนั้นเพื่อรองรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิตอล พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ด้านการใช้ชีวิตแบบ SMART LIFE มีบริการ Super WIFI ความเร็วสูงถึง 1GB/Sec. ให้บริการฟรี เชื่อมโยงทุกแง่มุมของการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมการทำงาน การพักผ่อน หรือการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

ทั้งนี้ สิงห์ คอมเพล็กซ์ ยังได้รับการออกแบบมาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกที่จะรักษาต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่ในพื้นที่แต่เดิมไว้เพราะต้นจามจุรีสามต้นนี้เป็นสัญลักษณ์ของอโศก และการออกแบบพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและภายนอกอาคารภายใต้แนวคิด Urban Sanctuary

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญเรื่องความสวยงามควบคู่ไปกับการเลือกใช้นวัตกรรมอัจฉริยะ เช่น การออกแบบฟินสีทองที่สร้างความโดดเด่นสวยงามให้ตัวอาคารภายนอก ในขณะเดียวกันได้เลือกติดตั้งกระจก Double Glazed ทั้งอาคารเพื่อช่วยในเรื่องลดความร้อน ป้องกันแสงยูวี กันเสียงจากภายนอก และสามารถนำแสงธรรมชาติมาใช้ในอาคาร รวมถึงการออกแบบที่ได้การรับรองมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมระดับสากล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *