ผ่าโมเดล “Origin Infinity” สร้างการเติบโตไม่สิ้นสุด ตั้งเป้าภายในปี 69 มีมาร์เก็ตแคปแตะ 1 แสนล้าน

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทรายใหญ่ ที่สามารถนำพาธุรกิจเติบโตได้ท่ามกลางการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยปี 2565 สามารถปิดยอดขายที่กว่า 41,000 ล้านบาท และมียอดโอนกรรมสิทธิ์กว่า 18,500 ล้านบาท

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  ฉายภาพก้าวสเตปแผนการเติบโตธุรกิจปี 2566 แบบไม่มีลิมิต ภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” สร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด พัฒนาเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ให้กลายเป็น Well-Being Lifetime Company หรือองค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต

ผุด 42 โครงการ มูลค่า 5 หมื่นล้าน

โดยการขับเคลื่อน ในการขยายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (Nationwide Serve)  เริ่มจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย เปิดตัวโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 13 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 27,500 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 45,000 ล้านบาท เป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ 30,000 ล้านบาท (รวมโครงการ JV ซึ่งเป็น 50% ของยอดโอนทั้งหมด) และเป้าหมายรับรู้รายได้ 19,000 ล้านบาท

ปักหมุดเพิ่มอีก 5 จัวหวัดเมืองท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน ปีนี้ขยายการลงทุนไปในจังหวัดใหม่มากขึ้น จากเดิมเน้นลงทุนในจังหวัดอีอีซีเป็นหลัก  โดยปีนี้เปิดเพิ่มใน 5 จังหวัดเมืองท่องเที่ยว  ได้แก่ ภูเก็ต  ซึ่งเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลก  หัวหิน  จุดหมายการพักผ่อนริมทะเล ส่วนหนึ่งในแผน Thailand Riviera  เขาใหญ่  จังหวัดนครราชสีมา  เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวแบบนันทนาการ ส่วนขอนแก่น เมืองแห่งการศึกษาของภาคอีสาน และเป็นจุดหมาย MICE City และเชียงใหม่  เมืองจุดหมายของการเกษียณอายุทั้งคนไทยและ expat พัฒนาโครงการแบบผสมผสาน เช่น บ้าน คอนโด โรงแรม ศูนย์การค้า บริการสุขภาพ

นอกจากนี้ จะเริ่มพัฒนาโครงการโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ มูลค่า REIT ประมาณการรวม 25,500 ล้านบาท โครงการกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Logistics & Warehouse)มูลค่า REIT ประมาณการรวม 4,500 ล้านบาท พร้อมทยอยนำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเครือบริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจบริการสุขภาพภายใต้ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ไปให้บริการในต่างจังหวัดด้วย

“ไฮไลต์ของปีนี้ คือการนำหลายแบรนด์ที่เราไม่ได้เปิดตัวมาระยะหนึ่ง กลับมาร่วมบุกตลาดเพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าหลากเซ็กเมนท์และสอดคล้องกับสภาพความต้องการของตลาดในปีนี้ อาทิ แบรนด์ดิ ออริจิ้น กลับมาเจาะตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อคน Gen Z และกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือ First Jobber แบรนด์เบลกราเวีย กลับมาเจาะตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรีรองรับดีมานด์หลากทำเล”

วัน ออริจิ้น เปิดเพิ่ม 7 โครงการ

“ปิติ จารุกำจร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจของการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ปีนี้จะมีการเปิดเพิ่มอีก 7 โครงการที่จะทำให้บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสะสม 20,000 ล้านบาท ไฮไลต์ของปีนี้เป็นการเปิด โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท (ทำเลพร้อมพงษ์) มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท, โรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัล แบงค็อก สุขุมวิท (ทำเลซอยสุขุมวิท 59) มูลค่าโครงการ 3,800 ล้านบาท และโครงการมิกซ์ยูส วัน พญาไท มูลค่าโครงการ 3,800 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังต่อยอดแบรนด์รีเทล Portobello จากศรีราชา ปีนี้จะเปิดอีก 2 ทำเล คือ แจ้งวัฒนะ และ ระยอง

ส่วนธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการบริหารอาคารชุด ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

แผนงานปีนี้ของธุรกิจสุขภาพ จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1.Health Club  เข้าไปเป็นเฮลธ์แคร์ เซอร์วิสให้กับโครงการ เน้นเวชศาสตร์เชิงป้องกัน เช่น ดูแลด้านโภชนาการอาหาร เป้าหมายเปิด 2 โครงการ

2.Mediplex เป็นสหคลินิกที่เข้าไปอยู่ในชุมชนเพื่อรองรับความต้องการด้านต่างๆ เช่น บิวตี้ เวลเนส ทันตแพทย์ จิตแพทย์ ร้านขายยา Pet Club เป้าหมายเปิด 22 โครงการ

3.โรงพยาบาล  ในลักษณะโรงพยาบาลแบบเฉพาะทางขนาดไม่ใหญ่ เข้าไปอยู่ในชุมชน ใกล้คนมากขึ้น และจะเน้นเรื่องสังคมผู้สูงอายุ เป้าเปิดตัว 1 โครงการ

ต้องจับตามอง แผนการเติบโตที่ไม่สิ้นสุดของ“ออริจิ้น” มาพร้อมกับอาวุธพร้อมมือมากมาย ทั้งกลุ่มบริทาเนียซึ่งพัฒนาบ้านแนวราบ และกลุ่มอัลฟาที่ดูแลการพัฒนาคลังสินค้า-โลจิสติกส์ ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจบริการต่างๆ ที่อยู่ใน ‘มัลติเวิร์ส’ ของบริษัท หากรวมทั้งกลุ่มแล้ว ได้ตั้งเป้าภายในปี 2569 กลุ่มออริจิ้นมีมาร์เก็ตแคปขึ้นไปแตะ 1 แสนล้านบาท  ซึ่งจะทำให้เป็นบริษัทอสังหาฯ ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *