เอพี เปิดตัวแบรนด์ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่”เจาะสตาร์ทอัพ-ครอบครัวนักธุรกิจ

เอพี ไทยแลนด์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม ภายใต้โรดแมปการพัฒนา ‘Unlock Vertical Life พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกเองได้’ พร้อมก้บการเปิดตัวแบรนด์ ลักชัวรีเรสซิเดนซ์ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” อีกครั้งในรอบ 7 ปี เพื่อจับกลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่(ํyoung Startups) และกลุ่มครอบครัวนักธุรกิจ เป็นแบรนด์ เจาะอินไซต์ การใช้ชีวิตลักชัวรียุคใหม่ เปิดตัวแฟล็กชิปแรกทำเล “สุขุมวิท 77” มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท

ซึ่งปีนี้กลุ่มเอพี ไทยแลนด์ ประกาศเปิดเกมรุกเปิดตัวโครงการทาวน์โฮมมากที่สุดถึง 29 โครงการ มูลค่า 26,600 ล้านบาท

เมธา รักธรรม

เมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บริษัทเอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ แนวราบ ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เอพีมองว่าแนวโน้มการตอบรับจากตลาดยังดีต่อเนื่อง และสามารถสร้างการเติบโตไปได้อีก สะท้อนจากยอดขายที่แข็งแกร่งของสินค้าแนวราบในช่วง8 เดือนที่ผ่านมา มูลค่า 26,840 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็น 70% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปี (38,000 ล้านบาท) การันตีถึงดีมานด์ลูกค้าที่มองหาบ้านแนวราบหลังใหม่ที่มีต่อเนื่องในทุกเซกเมนต์

โดยในช่วง 6 เดือนแรก บริษัทได้เปิดตัวสินค้าทาวน์โฮมไปแล้ว 13 โครงการ อาทิ บ้านกลางเมือง สาทร-กัลปพฤกษ์ ทำยอดขายได้แล้ว 83%,พลีโน ราชพฤกษ์-สาทร ทำยอดขายได้แล้ว 60% และโครงการพลีโน เพชรเกษม-สาย 4 ทำยอดขายได้แล้ว 92%

ส่วนในช่วงไตรมาส 3 นี้จะเปิดตัวเพิ่มอีก 11 โครงการ อาทิ บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 101 สเตชั่น, พลีโน ทาวน์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ และพลีโน ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ2 เป็นต้น ส่วนช่วง3-4 เดือนที่เหลือของปีนี้ มีแผนจะปิดการขายโครงการทาวน์โฮมเพิ่มอีก 20 โครงการ

“เอพี มั่นใจว่าการบุกตลาดบ้านลักชัวรี ผ่านการนำแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่’ กลับมาพกลับมาพลิกโฉมปักธงเปิดตัวใจกลางที่ดินย่านสุขุมวิท 77 ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการนำสินค้าแนวราบเครือเอพี สู่การสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการอีกครั้ง ที่จะเป็นบ้านลักชัวรีใจกลางเมือง โครงการแรกและโครงการเดียว”

ล่าสุดเปิดโครงการใหม่ แบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่’ ในทำเลย่านสุขุมวิท 77 เจาะกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่มหลัก คือ ผู้ประกอบการยุคใหม่( Young Startups) และกลุ่มครอบครัวนักธุรกิจ (Business Successors ) ที่ประสบความสำเร็จ

ที่ตั้งโครงการอยู่บนที่ดินกว่า 20 ไร่ พัฒนาเป็นทาวน์โฮมและบ้านแฝดจำนวน 120 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Re – Envision Your Luxury Living” มีทั้งทาวน์โฮมและบ้านแฝด โดยสินค้าหลักจะทาวน์โฮมหน้ากว้าง 6-8 เมตรสูง 3-3.5 ชั้น ขนาดที่ดิน 24 – 32 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 – 259 ตารางเมตร พร้อมฟังก์ชันรูปแบบใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ Double Volume Living สูงกว่า 6 เมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และที่จอดรถ 3 คัน โดยจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 – 9 ตุลาคมนี้ ราคาเริ่มต้น 14.9 – 25 ล้านบาท

ขณะที่การออกแบบฟังก์ชันใช้สอยภายในบตัวบ้านเน้นความหรูหราและกลมกลืนต่อเนื่องตั้งแต่พื้นที่ห้องรับแขก พื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ จนถึงพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวแบบเต็มพื้นที่ที่ชั้นสองแบบ Double Volume ที่สูงกว่า 6 – 6.4 เมตร ไปจนถึงห้องนอนใหญ่ทั้งแบบ Duplex Bedroom และ Penthouse Master Bedroom

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีทั้งฟิตเนส 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ คลับเฮ้าส์สถาปัตยกรรมสไตล์ Modern Classic Architecture พื้นที่สวนสีเขียวโซนฝั่งตะวันตก Forest Garden และโซนตะวันออก Pattern Topiary Garden

“เรามองเห็นความต้องการบ้านลักชัวรีตอบรับเทรด์การใช้ชีิวตรูปแบบใหม่ใจกลางเมือง ซึ่งหากย้อนหลังไปในช่วง 7 ปี แนวราบในทำเลสุขุมวิท 77 จะเห็นช่องว่างในกลุ่มเซกเมนต์ลักชัวรี ระดับราคา10-20 ล้านบาท ไม่พบการเปิดขายใหม่ในย่านนี้”

สำหรับยอดขายรวม ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 สร้างยอดขายรวม 34,636 ล้านบาท โต 49% แบ่งเป็นยอดขายจากแนวราบ มูลค่า 26,838 ล้านบาท โต 25% และคอนโดมิเนียมมูลค่า 7,798 ล้านบาท โต 34% แบ่งเป็นสินค้ารอรับรู้รายได้(Backlog) 38,310 ล้านบาท จากแนวราบ 19,270 ส่วนใหญ่รับรู้รายได้ในปีนี้ และจากแนวสูง (รวม100%JV ) 19,039 ล้านบาท และรับรู้ในปีนี้ประมาณ 5,916 ล้านบาท

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *