“จระเข้” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 รุกขยายไลน์สินค้าบุกตปท. ขับเคลื่อนรายได้5 ปีแตะ5 พันล.

“จระเข้” เผยวิสัยทัศน์และทิศทางในการดำเนินธุรกิจในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 เร่งขยายไลน์สินค้า คาดยอดขายปีนี้โต 20% พร้อมรุกตลาดต่างประเทศกลุ่ม CLMV เชื่อภายใน 4-5 ปี กวาดยอดขายทะลุ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า เพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง ครบวงจรตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา ตรา “จระเข้” มากว่า 30 เปิดเผยว่า  สำหรับก้าวต่อไปของจระเข้และทิศทางการดำเนินธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวปูกระเบื้อง และไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมเคมีก่อสร้างที่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น นวัตกรรมซ่อมแซม และตกแต่งแบบครบวงจร เพื่อบ้าน อาคาร ไปจนถึงงานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) รวมทั้ง SEE JORAKAY สีธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากสีทั่วไปโจทย์เทรนด์สุขภาพและการดูแลสิ่งแวดล้อม  ผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบและปกป้องพื้นผิว (Coating) และ JORAKAY GREEN PRODUCTS  เพื่อตอบโจทย์อาคารเขียว

“แผนการลงทุนใน 3-5 ปี จะมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในด้านของการขยายสินค้ากลุ่มเคมีก่อสร้างให้ครอบคลุมมากขึ้น และสำหรับในส่วนของช่องทางการจำหน่ายสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีทั้งการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ และร้านค้าโมเดิร์นเทรดอีกกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการใช้ Enterprise Resource Planning หรือ ERP พัฒนาระบบการจัดการตั้งแต่การผลิต จัดส่ง และเชื่อมต่อการชำระเงิน รองรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย สอดคล้องกับธุรกิจยุคใหม่ ผนวกกับ Customer Data / Digital Transformation เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น รวดเร็วขึ้น ในรูปแบบของ B2B และ B2C  เสริมด้วย Non Products เช่น บริการติดตั้ง โดยช่างฝีมือที่ได้รับการรับรองจากศูนย์ฝึกอบรม จระเข้ อะคาเดมี่ (JORAKAY ACADEMY TRAINING CENTER) เป็นการต่อยอดบริการให้คำปรึกษาและบริการเกี่ยวเนื่องกับการอยู่อาศัยอย่างครบวงจร”  นายศุภพงษ์ กล่าว

นำร่องศึกษาตลาดเวียดนามเติบโตสูง

   สำหรับสินค้าที่มียอดขายสูงสุดกว่า 80% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท ได้แก่ กลุ่มกาวซีเมนต์ เขียว แดง เงิน ทอง โดยเฉพาะกาวเขียวที่มียอดขายอันดับ 1 ในตลาดต่อเนื่อง กลุ่มกาวยาแนวพรีเมียม พลัส ป้องกันราดำ ที่มียอดขายอันดับ 1 ในตลาด โดยปัจจุบันสินค้าในกลุ่มกาวซีเมนต์และกาวยาแนวปูกระเบื้องของจระเข้ มีส่วนแบ่งตลาดในประเทศกว่า 50% ดังนั้นเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้ธุรกิจในอนาคต นอกจากการเพิ่มไลน์สินค้าแล้ว บริษัทจึงมีการขยายตลาดออกไปในต่างประเทศด้วย ซึ่งได้แก่กลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม  โดยเฉพาะเวียดนาม  ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูงและยังคงนิยมการใช้วิธีการปูกระเบื้องแบบดั้งเดิม โดยบริษัทจะมุ่งทำการตลาดโดยศึกษาระบบการกระจายสินค้าตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคในเวียดนามเพื่อทำให้สินค้าเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

5 ปีดันยอดขายแตะ 5 พันล้าน

นายศุภพงษ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 2,800 ล้านบาท สำหรับในปี 2565 คาดว่ายอดขายของบริษัทจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยคาดว่าบริษัทน่าจะทำยอดขายได้กว่า 3,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขายมาจากในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% ทั้งนี้ ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า หลังเดินหน้าตามแผนสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่ คาดว่าบริษัทจะสามารถดันยอดขายไปแตะ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี  และสัดส่วนยอดขายเปลี่ยนไป มาจากในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20%

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *