บ้านมือสองทะลัก! ฝากซื้อ-ขายเพิ่ม 17 เท่าตัว

ตลาดบ้านมือสอง นับเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด พบมีการประกาศขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นทวีคูณ ซึ่งผลมาจากความกังวลการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผนวกกับการระบาดโควิด -19

สรังสี นันทพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ต ออฟ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ AOL Property ฉายภาพ สถานการณ์ตลาดบ้านมือสองในปัจจุบันว่า ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก การแข่งขันรุนแรงขึ้น ประกอบกับผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่า มีผู้ต้องการฝากขาย-เช่าบ้านมือสองสูงขึ้นมาก ปัจจุบันบริษัทมีผู้ติดต่อขอฝากขายหรือเช่ากว่า 500 รายการทรัพย์ต่อเดือน จากปกติจะมีประมาณ 30-40 รายการทรัพย์ต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 17 เท่า

“สาเหตุคาดว่าเกิดจากสภาพเศรษฐกิจฝืด และชาวต่างชาติที่ปกติจะเช่าอยู่อาศัยหายจากตลาด ทำให้เจ้าของทรัพย์ต้องการขายหรือปล่อยเช่าสูงขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ซัพพลายจะสูงขึ้นมาก แต่สำหรับบริษัทจะปิดการขายได้ยาก สามารถปิดได้เพียง 10% ของจำนวนทรัพย์ เพราะปกติแล้วทรัพย์ที่ปิดการขายได้มักจะต้องลดราคาลงราว 20% ของราคาตั้ง ขณะเดียวกันฝั่งผู้ซื้อถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารสูงขึ้นมาก จากปกติก่อน COVID-19 มีอัตรารีเจกต์ เรตประมาณ 50% ปัจจุบันพุ่งขึ้นถึง 70-80%

ขยายไลน์รับงานบริหารโครงการมือหนึ่ง

สรังสี บอกว่า สภาวะดังกล่าวทำให้โบรกเกอร์รายเล็กปิดตัวไปหลายร้อยรายจากปัญหาต่อเนื่องของ COVID-19 โดยเจ้าของบริษัทโบรกเกอร์ปรับตัวเองไปเป็นฟรีแลนซ์แทน ส่วนบริษัท ก่อนหน้ารับเป็นนายหน้าขายเฉพาะทรัพย์มือสอง แต่ปีนี้มีการปรับไปทำธุรกิจ “บริหารโครงการ” มือหนึ่งแบบครบวงจร (Project Sales) เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ

ธุรกิจบริหารโครงการดังกล่าวหมายถึงรับเป็นที่ปรึกษาโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่ยังไม่ก่อสร้าง จนถึงโครงการสร้างเสร็จแต่ต้องการรีโนเวตหรือปรับแบบใหม่เพื่อให้ขายง่ายขึ้น โดยขณะนี้มีลูกค้าลักษณะนี้เข้ามาแล้ว 4 ราย มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท

ส่วนใหญ่โครงการที่เข้ามาจะเป็นโครงการของดีเวลอปเปอร์รายกลาง รายย่อย ทำให้งบประมาณบริษัทมีจำกัดและในสภาวะตลาดซบเซา ทำให้ต้องการที่ปรึกษาการขายที่ดูแลให้คำแนะนำด้านการตลาด เช่น การตั้งราคาที่เหมาะสม ปรับรูปแบบโครงการ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค

“ตลาดตรงนี้ยังมีช่องว่างให้เล่น เพียงแต่ต้องหาตลาดที่ให้เจอ และต้องเป็นตลาดคู่แข่งทำไม่ได้”

ใช้บิ๊กดาต้า และ AI สร้างความแม่นยำ

อย่างไรก็ดี การสร้างจุดแข็งในการรุกบริหารโครงการใหม่ว่า จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญในเรื่องการวิจัย และการศึกษาความเป็นไปได้ของทั้งโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน เช่น การใช้ Big Data เพื่อให้เกิดความถูกต้องและแม่นยำในการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการ ทั้งนี้ บริษัทได้มีความร่วมมือกับ Data Tech Academy ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารข้อมูลในการพัฒนาระบบ จะช่วยสร้างความได้เปรียบในธุรกิจโบรกเกอร์ คือ เรื่องของความลึกของข้อมูล เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรังสี กล่าวถึง แผนการดำเนินธุรกิจด้านตลาดบ้านและคอนโดฯ มือสองนั้น ยังคงให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดจะมีการแข่งขันกันสูงมาก โดยในปัจจุบันบริษัทมีทีม รวมทั้งหาสินค้าเข้ามาเพิ่มในพอร์ตให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าทั้งสองฝั่งคือ ฝั่งผู้ซื้อ และฝั่งผู้ขาย รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ทีมงาน

โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทบริหารทรัพย์อสังหาฯ มือสองประมาณ 4,000 ยูนิต มูลค่าการขาย 12,000 ล้านบาท คาดสิ้นปี 2563 เพิ่มเป็น 5,000 ยูนิต มูลค่าการขาย 15,000 ล้านบาท

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *