ประเดิมแบรนด์ใหม่ “The Origin Ram 209 Interchange”

ออริจิ้นฯ เปิดแบรนด์คอนโดฯ น้องใหม่ “ดิ ออริจิ้น” เจาะตลาด First Jobber และ First Condo Buyer ประเดิม “The Origin Ram 209 Interchange” เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีส้ม-ชมพู มูลค่า 1,900 ล้านบาท ด้วยราคาเริ่มต้น 1.29 ล้าน

อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 บริษัทจะส่งแบรนด์คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ดิ ออริจิ้น” (The Origin) กระจายบุกไปยังทำเลต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯถึง 6 โครงการ 6 ทำเล ได้แก่ สุขุมวิท รัชดา ลาดพร้าว รามอินทรา รามคำแหง พหลโยธิน เน้นเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) อายุประมาณ 23-28 ปี และกลุ่มที่กำลังต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นทรัพย์สินอย่างแรก (First Condo Buyer)

“เรามุ่งเน้นพัฒนาแบรนด์น้องใหม่นี้ ให้เป็น Smart Product และมี Service Excellence ที่สามารถตอบโจทย์และแก้ Pain Point ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในห้อง มีพื้นที่ส่วนกลางที่อำนวยความสะดวกให้กับทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเราจะเปิดตัวแคมเปญสะท้อนทั้งความเป็นตัวตนของแบรนด์และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์คนยุคปัจจุบันในช่วง กลางเดือน ก.ค.นี้ เราอยากให้ผู้บริโภคที่กำลังมีความสนใจทั้ง 6 ทำเล หยุดและรอจับตาดูคอนโดของเราที่กำลังจะเปิดตัวให้ดี” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange)

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ดิ ออริจิ้น นำร่องก่อน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในย่านมีนบุรี ด้วยความสูง 109 เมตร ทำให้เห็นวิวได้รอบทิศทาง ใกล้โรงเรียนชั้นนำและศูนย์การค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก เปิดพรีเซล 29 มิ.ย.นี้ ด้วยราคาเริ่มต้นดีที่สุดในย่าน เพียง 1.29 ล้านบาท

ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange)

“ย่านรามคำแหง-มีนบุรี เป็นย่านที่มีความต้องการอยู่อาศัยจริง และถือเป็นทำเลแห่งอนาคต เพราะกำลังจะมีรถไฟฟ้าถึง 2 สายเชื่อมเข้าไปสู่แหล่งงานสำคัญอย่างอโศก-พระราม 9 และดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ มีร้านอาหาร มีแหล่งช้อปปิ้ง มีโรงพยาบาล อำนวยความสะดวกมากมาย ขณะที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่สะสมยังไม่มากนัก จึงเป็นสาเหตุให้เราเลือกนำร่องแบรนด์ใหม่ด้วยทำเลนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange)

สำหรับโครงการดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง ติดสถานีอินเตอร์เชนจ์มีนบุรีเชื่อมรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ สายสีส้มตะวันออกและสายสีชมพู บนพื้นที่ขนาดประมาณ 4 ไร่ 87 ตร.วา ประกอบด้วยอาคารสูง 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 8 ชั้นอีก 1 อาคาร ภายในโครงการประกอบด้วยพื้นที่สีเขียวถึง 3,000 ตร.ม. พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกจำนวนมากที่สุดในย่านและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ถึง 17 อย่าง อาทิ จ๊อกกิ้งแทร็ก, Street Basketball, Sky garden, Sky Lounge, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Theatre Room, Game Room, Private Party Room, Co-working Space

ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange)

ขณะที่ห้องพักอาศัย ประกอบด้วยห้องพักขนาดตั้งแต่ 22-34 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully-fitted พร้อมระบบHome Automation อำนวยความสะดวกในชีวิตได้จากปลายนิ้ว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2562 และแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2564

ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange)

คาดว่าอีกไม่นาน รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต น่าจะเปิดให้ใช้บริการเพื่อรองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างชานเมืองโซนเหนือกับกรุงเทพฯ ชั้นใน ทำให้บริเวณตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง “ซี.พี.แลนด์” ในกลุ่ม ซี.พี. หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ จึงไม่รอช้า ขอเป็นผู้นำที่จะเข้าไปปักหมุดสร้างอาคารสำนักงานให้เช่าแห่งใหม่ “ซี.พี. ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค” ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2562 นี้

ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange)

ซี.พี. ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค มาในคอนเซ็ปต์ “Office in the park” เพื่อรองรับทุกรูปแบบของธุรกิจ ภายใต้งบลงทุนกว่า 1,250 ล้านบาท เป็นสำนักงานให้เช่าสูง 19 ชั้น บนพื้นที่ 46,800 ตารางเมตร (ตร.ม.) ตั้งอยู่ในโครงการนอร์ธปาร์ค บนถนนวิภาวดี – รังสิต กรุงเทพฯ โซนเหนือ อาคารมีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่จะทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพพื้นที่สีเขียวได้โดยรอบ ร่มรื่นด้วยสวน 2 ชั้น บรรยากาศผ่อนคลายระหว่างวันทำงาน ด้วยมาตรฐานคุณภาพการก่อสร้างเทียบเท่าสากล

เน้นความปลอดภัยที่มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงาน โดยติดตั้งแผงกันแดดชนิดพิเศษที่ลดการนำพาความร้อนสู่ตัวอาคาร ผนังอาคารให้แสงธรรมชาติ Natural Lighting วางระบบเครื่องปรับอากาศแบบ Variable Refrigerant Flow (VRF) และการใช้ระบบควบคุมแยกเป็น Module สำหรับพื้นที่เช่าแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานเฉพาะจุดในบริเวณที่ต้องการช่วงนอกเวลางานได้ รวมถึงการจัดวางผังของแต่ละพื้นที่ให้มีความยืดหยุ่นหลากหลายรูปแบบ มีระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ครอบคลุมทุกพื้นที่ และระบบควบคุมลิฟท์แบบ Destination Control

“จุดเด่นของอาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค อยู่ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี มีระบบการบริหารจัดการอาคารพร้อมฟังก์ชั่นที่ทันสมัยเหมาะสมต่อการใช้งานของสำนักงานยุคใหม่ เป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่จะเติบโตไปสู่ยุค 5G เพราะได้ลงทุนโครงสร้างบอร์ดแบรนด์รองรับไว้ ขณะเดียวกันก็ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ที่จะให้บรรยากาศการทำงานสดชื่นและน่าอยู่มากขึ้น” ศัลย์ มูลศาสตร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารอาคาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

หากมองในด้านศักยภาพของพื้นที่ทางโซนเหนือของกรุงเทพฯ ปัจจุบันพบว่ามีการลงทุนด้านคมนาคม ที่พักอาศัยและการพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น แต่ซัพพลายในกลุ่มของอาคารสำนักงานยังมีน้อย จะมีก็แต่อาคารเก่า หรืออาคารที่อยู่ไกลออกไป ขณะที่ภายในพื้นที่นอร์ธปาร์คเองยังสามารถรองรับการลงทุนเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานได้อีกหลายพื้นที่ จึงเชื่อว่าในอนาคตน่าจะมีการลงทุนในรูปแบบดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้ย่านนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจขนาดย่อม ๆ ได้อีกย่านหนึ่ง

ที่สำคัญอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการ สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้สะดวกโดยใช้ระยะเวลาไม่นานนัก
นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีทุ่งสองห้อง ถึงปากทางเข้านอร์ธปาร์ค มีระยะทางเพียง 300 เมตร และห่างจากอาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค เป็นระยะทาง 1.8 กิโลเมตร ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานของผู้เช่า ซี.พี.แลนด์จึงมีการจัดรถรับส่งให้ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

ปัจจุบัน ซี.พี. ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมพื้นที่ตัวอย่าง ณ โครงการก่อสร้างภายในนอร์ธปาร์ค และเปิดให้จองพื้นที่แล้ว ส่วนราคาค่าเช่านั้น กำหนดราคาเริ่มต้นที่ 550 บาทต่อ ตร.ม. (กรณีเช่าเหมาชั้นตั้งแต่ชั้น5-15) ส่วนชั้น 16-18 จะเป็นลักษณะเช่าแบ่ง 2-6 ยูนิต ราคาอยู่ที่ 600 บาทต่อตร.ม. และส่วนที่เป็นร้านค้าจะอยู่ชั้น 1 กำหนดค่าเช่าอยู่ที่ 800 บาทต่อตร.ม. และสามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ตั้งแต่ต้นปี 2563

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *