คิง ไว กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อสังหาจากฮ่องกง เชื่อมั่นศักยภาพของตลาดอสังหาฯ เมืองไทย เดินหน้าเปิดโครงการคอนโดมิเนียมหรูแห่งแรก “S61 SUKHUMVIT BY KWG” ย่านเอกมัย มั่นใจปีหน้าปิดการขายหมด
เฮนรี ชาน รองประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (King Wai Group : KWG) ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “KWG” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ “เอส61 สุขุมวิท บาย คิง ไว กรุ๊ป” (S61 SUKHUMVIT BY KWG) อย่างเป็นทางการ เป็นคอนโดมิเนียมหรูแบบ Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร บนเนื้อที่ 1-1-98 ไร่ จำนวน 126 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายปิดการขายภายในปี 2562
รูปแบบห้องชุด มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ 1-Bedroom ขนาด 40-46 ตารางเมตร 2-Bedrooms ขนาด 56-70 ตารางเมตร 3-Bedrooms ขนาด 79–95 ตารางเมตร และ Penthouse ขนาด 135–160 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นต่อหน่วยที่ 192,000 บาท/ตารางเมตรโดยประมาณ ในราคาเริ่มต้นที่ 7.69-10 ล้านบาท Fully-Furnished แต่ละชั้นจะมี 9 ยูนิต
บริษัทฯ มีความมั่นใจในทำเลทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน โดยในปี 2561 มีจำนวนโครงการที่เปิดขายทั้งโครงการ High Rise และ Low Rise พื้นที่ของโครงการที่เป็นคู่แข่งส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนทองหล่อและเอกมัยเป็นหลัก ด้วยจำนวนโครงการที่เปิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ย่อมทำให้ลูกค้ามีข้อเปรียบเทียบมากมาย จึงส่งผลกระทบต่อระยะเวลาการตัดสินใจของลูกค้าที่จะใช้เวลานานขึ้น
อย่างไรก็ตาม โครงการ “เอส61 สุขุมวิท บาย คิง ไว กรุ๊ป” (S61 SUKHUMVIT BY KWG) มีจำนวนยูนิตไม่มาก เพียง 126 ยูนิต จึงเชื่อว่า จะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปี 2562
เปิดภูมิหลัง “คิง ไว กรุ๊ป”
สำหรับกลุ่มคิง ไว กรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทจากฮ่องกงที่มีฐานอยู่ในจีน ทางกลุ่มมีธุรกิจหลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการเงิน และธุรกิจค้าปลีกข้ามพรมแดน โดยมีโครงการ IMX (International Merchandise Exhibition and Exchange Center) หรือศูนย์จัดแสดงสินค้าครบวงจร รองรับโอกาสในการขยายตลาดนำเข้าสินค้าไปยังประเทศจีน ทางกลุ่มได้พัฒนาธุรกิจดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ ตามโมเดล “Store-Warehouse-Exhibition-Customer” โดยมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ จากทั้งในและต่างประเทศ
คิง ไว กรุ๊ป มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมชื่อเสียงในธุรกิจมายาวนานกว่า 30 ปีในประเทศจีนและฮ่องกง โดยเริ่มขยายธุรกิจออกนอกประเทศหลังการปรับใช้นโยบาย “Belt and Road Initiative” (BRI) ของรัฐบาลจีน ทางกลุ่มเล็งเห็นว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว อีกทั้งยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศที่พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางและประตูสู่การทำธุรกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
โครงการระดับเมกะโปรเจคที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดของกลุ่มคิง ไว กรุ๊ป คือ โครงการ “King Wai City Oasis” ซึ่งตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้และเทียนจินมีพื้นที่ใช้สอยรวมกันมากกว่า 1.8 ล้านตารางเมตร และได้รับการรับรองจากศูนย์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อม แห่งชาติจีน ให้เป็น “ที่อยู่อาศัยที่เป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” และ “อาคาร Low-Carbon Building”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Bauhinia Valley ในเขตเป่าซาน มหานครเซี่ยงไฮ้ อันเป็นผลงานชิ้นเอกของ คิง ไว กรุ๊ป ในด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ มุ่งเน้นการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม นวัตกรรมและเทคโนโลยี เชื่อมโยงแบรนด์ระดับโลกสร้างฐานอุตสาหกรรมของอนาคต
ทุนจีนมองอสังหาฯ ไทยยังน่าสน
ในส่วนของภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมาจะเติบโตไม่มากนัก แต่เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการมากมายสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งมวลชนที่ทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้น หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ของภาครัฐเพื่อสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจ
ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลและจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยนี้ จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเราสามารถเติบโตไปได้ดี โดยเฉพาะแผนการขยายเมืองของไทย และกลยุทธ์การสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใน ASEAN จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโต ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ไม่ได้มีเพียงคนไทยเท่านั้นที่ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่มีนักลงทุนต่างชาติมากมายโดยเฉพาะจีน ที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจคอนโดมิเนียมไทย
“แม้ว่าบริษัท คิง ไว กรุ๊ป จะเข้ามาในเมืองไทยได้ไม่นาน แต่เราก็ได้มีการสร้างพื้นฐานที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ คิง ไว กรุ๊ป ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีโดยเราได้มีการขายโครงการ “วิลล่า อะคาเดีย ศรีนครินทร์” ไปจนหมดโครงการแล้ว และ พื้นที่ของอาคารจูเวลเลอรี่เซ็นเตอร์ที่ คิง ไว กรุ๊ป เป็นเจ้าของร่วมก็ได้รับการปล่อยเช่าไป 90% แล้ว ตอนนี้ คิง ไว กรุ๊ป กำลังมุ่งมั่นที่จะขยายฐานธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์
