คุยกับ “แป๋ม-ชฎาทิพ” ผู้ปั้น “ไอคอนสยาม”

แน่นอนว่า เวลานี้คงไม่มีโครงการไหนที่ถูกจับตามากได้เท่ากับ “ไอคอนสยาม” แล้ว โครงการรีเทลที่ให้นิยามตัวเองว่าเป็น “อภิมหาโปรเจค” ซึ่งก่อนที่จะได้เห็นโฉมหน้าของ “ไอคอนสยาม” อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ย. 2561 นี้ Location Inside ขอเล่า Timeline โครงการไอคอนสยาม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

โดย…กัญสุชญา สุวรรณคร

เปิดตัวความร่วมมือครั้งแรก วันที่ 27 มีนาคม 2555

3 กลุ่มทุนใหญ่ ประกอบด้วย กลุ่มสยามพิวรรธน์ เจ้าของโครงการค้าปลีก สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ กลุ่มแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (เอ็มคิวดีซี) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกาศความร่วมมือพัฒนาที่ดินย่านเจริญนครบนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ร่วมกัน เดิมประกาศมูลค่าโครงการไว้ที่ 35,000 ล้านบาท (ปัจจุบันมูลค่ารวมของโครงการขยับขึ้นมาเป็น 50,000 ล้านบาท) ซึ่งในวันประกาศเปิดตัวความร่วมมือ ถือว่าสร้างความฮือฮาให้กับทุกวงการของภาคธุรกิจ

เปิดชื่อไอคอนสยาม วันที่ 1 กรกฎาคม 2557

ถัดจากวันที่ประกาศความร่วมมือราวๆ 2 ปี 3 พันธมิตรใหญ่ดังกล่าว ก็พร้อมประกาศชื่อโครงการแห่งนี้ว่า “ไอคอนสยาม” (ICONSIAM) และนิยามว่าเป็น อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย ศูนย์การค้า คอนโดมิเนียมริมน้ำ 2 อาคาร และ 7 สิ่งมหัศจรรย์ระดับโลก พร้อมประกาศเพิ่มมูลค่าการลงทุนเป็น 50,000 ล้านบาท เดิมตั้งเป้าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2560 แต่ปัจจุบันขยับมาเป็นปลายปี 2561 นี้

ประกาศแผนรถไฟฟ้าสายสีทอง

นอกจากการประกาศชื่อโครงการไอคอนสยามแล้ว ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน โครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งจะเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลเชื่อมต่อมาจากรถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรี วิ่งเข้าถนนเจริญนคร ผ่านหน้าโครงการไอคอนสยาม ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางมายังอภิมหาโปรเจคแห่งนี้มีความสะดวกมากขึ้น โดยราวๆ ปี 2557 กรุงเทพมหานคร ได้ลงนามสัญญากับกลุ่มไอคอนสยามให้เข้ามาลงทุนรถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นเงินราว 2,000 ล้านบาท ระยะแรก จำนวน 3 สถานี ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี (G1) สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีคลองสาน (G3) และให้กลุ่มไอคอนสยามได้สิทธิการโฆษณาในบริเวณสถานีเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งโครงการนี้เพิ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อกลางปี 2561 นี้ และอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ

ทยอยเปิดแต่ละไฮไลท์ในไอคอนสยาม

หลังจากประกาศภาพรวมโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลุ่มแมกโนเลียก็เริ่มเปิดตัวคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำในโครงการไอคอนสยาม ส่วนฝั่งรีเทล ก็เปิดตัวแม่เหล็กใหญ่อย่าง “ห้างสรรพสินค้าทาคาชิมาย่า” ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่นที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 180 ปี ที่จะมาเปิดในไอคอนสยามแบบ full-scale ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของไอคอนสยาม รวมถึง ทยอยเปิดไอไลท์อื่นๆ

นับถอยหลังวันเปิดอภิมหาโปรเจค

นับจากวันแรกตั้งแต่ปี 2555 ที่ประกาศความร่วมมือ 3 พันธมิตร จนเมื่อไม่กี่วันนี้ ก็ประกาศเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันแรกในวันที่ 9 พ.ย. 2561 นี้ พร้อมกำหนดเป็นงานวันเปิดตัวติดกัน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-11 พ.ย. 2561 นี้ ภายใต้งบเปิดตัวร่วม 1,000 ล้านบาท

เปิดใจผู้ปลุกปั้นไอคอนสยาม

เกือบ 6 ปีที่โครงการไอคอนสยามถูกพัฒนาอย่างบรรจง ให้เป็นที่สุดสมกับเป็นอภิมหาโปรเจค ซึ่งผู้ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ต้องยกเครดิตนี้ให้หญิงแกร่งแห่งวงการรีเทลของประเทศไทยอย่าง แป๋ม-ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด

“ตั้งแต่วันแรกที่คิดจะทำโปรเจคนี้ ก็คิดไว้แล้วว่า จะต้องสร้างโครงการที่จะเป็นสถานที่ที่จะเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทยที่มีอยู่ในชาติ จนถึงวันนี้เราทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ปณิธานที่ตั้งไว้กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้วในเร็วๆ นี้”

และนี่คือถ้อยคำที่คุณแป๋ม-ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ถ่ายทอดออกมาหลังจากทีมงาน Location Iniside ถามถึงความรู้สึกที่มีต่อไอคอนสยามที่กำลังจะแล้วเสร็จ

แป๋ม-ชฎาทิพ ยังกล่าวต่ออีกว่า ไอคอนสยาม จะเป็น เดสติเนชั่น (Destination) หรือจุดหมายปลายทางระดับโลก เพราะเป็นศูนย์รวมความมหัศจรรย์ทั้งศิลปะและวัฒนธรรม ผสมผสานกับการช้อปปิ้งและความบันเทิง และ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของไอคอนสยาม ซึ่งจะเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้อยากมาเยี่ยมชม โดยคาดการณ์ว่า ในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในไอคอนสยามเฉลี่ย 150,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นชาวไทย 65-70% และชาวต่างชาติ 30-35% ส่วนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเช่นปลายปี สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเพิ่มเป็น 40-45%

สำหรับวันที่ 9 พ.ย. นี้ ถือว่าไอคอนสยามพร้อมเปิดให้บริการเกือบ 100% มีเพียงไม่กี่องค์ประกอบที่จะทยอยเปิดให้บริการในปี 2562 ไม่ว่าจะเป็น #ฟิตเนสเฟิร์สคลับ Fitness First Club คลับระดับหรูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ซึ่งจะเป็นแฟล็กชิฟที่ให้บริการพิเศษแตกต่างจากสาขาอื่นๆ พร้อมเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2562

ทรูไอคอนฮอลล์

ศูนย์ประชุมมาตรฐานสากลพร้อมนวัตกรรมล้ำยุคแห่งแรกในประเทศไทย ที่สามารถรองรับงานประชุมระดับชาติ การแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียง และงาน MICE ระดับโลกได้ ซึ่งจะเปิดในเดือนกรกฎาคม 2562

ริเวอร์มิวเซียมแบงค็อก

พิพิธภัณฑ์ระดับโลก มาตรฐานสากลรองรับการจัดแสดงงานศิลปะจากทั่วโลกที่จะหมุนเวียนมาจัดแสดงได้ จะเป็นพื้นที่ Cultural Space ที่ทำให้ผู้คนเข้าถึงและเรียนรู้งานศิลปะจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น และเป็นพื้นที่เชิงศิลปะวัฒนธรรมที่สร้างคุณค่าให้แก่สังคม มีกำหนดเปิดในเดือนกรกฎาคม 2562

ในส่วนของผู้เช่า ปัจจุบันถือว่าผู้เช่าครบ 100% แล้ว ด้วยผู้ประกอบการกว่า 500 ราย ตั้งแต่แบรนด์ไทยไปจนถึงลักชัวรี่แบรนด์จากต่างประเทศ ซึ่งแต่ละร้านจะออกแบบเชื่อมโยงกับความเป็นไอคอนสยาม ที่นี่จะเป็นโครงการแห่งแรกที่ทำ Story Telling สร้างความตื่นตาตื่นใจ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้ผู้บริโภค โดยในจำนวนร้านค้าและผู้ประกอบการกว่า 500 รายนี้ สัดส่วนกว่า 20% เป็นแบรนด์หรือร้านค้าที่ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย อาทิ สยาม ทาคาชิมายะ ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ 7 ชั้น 36,000 ตารางเมตรของไอคอนสยาม, Nike Kicks Lounge แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอสินค้าที่แตกต่างจาก Nike Store อื่นๆ, ร้าน JD Sports ซึ่งเป็นร้านมัลติ-แบรนด์สปอร์ตส์-แฟชั่นที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เปิดสาขาแรกในประเทศไทย และเป็นแฟลกชิปสโตร์ด้วย และยังมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอื่นๆ อีกมากมาย

รับรู้คอนเซ็ปต์ไอคอนสยามแบบจัดเต็มเช่นนี้ คงต้องมานับถอยหลัง อีกไม่กี่วันที่จะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอภิมหาโปรเจค “ไอคอนสยาม”

#ไอคอนสยาม #ICONSIAM

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *