เปิดสูตรลงทุนอสังหาฯ ลีสโฮลด์

แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) เปิดกลยุทธ์การตลาดคอนโดมิเนียมลีสโฮลด์ รับเทรนด์ที่ดินหายาก มั่นใจทำเลราชดำริดึงกลุ่มคนซื้อนักลงทุน ซื้อเอง

ที่ดินใจกลางเมืองที่หายากขึ้น หลายโครงการพัฒนาบนที่ดินสิทธิการเช่า หรือที่ดินแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) ปัจจุบันจึงมีหลายโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่แบบลีสโฮลด์ (Leasehold) ที่นำเสนอขายในตลาด โดยแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) ก็เป็นหนึ่งที่ส่งห้องชุดระดับซูเปอร์ลักชัวรี่กลางย่านราชดำริร่วมลงชิงกำลังซื้อนักลงทุน โดยนำเสนอการลงทุนแบบลีสโฮลด์ Leasehold ระยะยาว 50 ปี พร้อมประกาศเปิดตัวโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ เชนโรงแรมในเครือฮิลตัน เพื่อเพิ่มมูลค่าของการพักอาศัย

สำหรับปี พ.ศ. 2561 นี้ถือเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเชิงบวกเมื่อเปรียบเทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมาจากอัตราการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งช่วยชดเชยอัตราการบริโภคในประเทศที่ซบเซา รวมถึงการอัดฉีดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทต่าง ๆ ในเอเชียต่างมองประเทศไทยเป็นฐานภูมิศาสตร์ด้านกลยุทธ์ที่สำคัญเพื่อการดำเนินธุรกิจที่คุ้มค่าต่อการลงทุน ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ซื้ออสังหาฯ ต่างกำลังมองหาทรัพย์สินในเมืองไทยที่มีมูลค่าสัมพัทธ์ที่ดีเยี่ยมและมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนฮ่องกงมองหาทำเลใหม่ๆ

ความต้องการของนักลงทุนในเอเชียต่างมุ่งไปที่อสังหาริมทรัพย์ระดับสูง ซึ่งก็คือโครงการเรสซิเดนซ์ใจกลางย่างธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ (CBD) นั่นเอง ตลาดอสังหาฯ ระดับนี้นับวันจะมีราคาถีบตัวสูงขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากทำเลทองเริ่มหายากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสวนทางกับความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะนักลงทุนจากฮ่องกงที่เริ่มผละจากฮ่องกงไปมองหาทำเลใหม่ๆ ในต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ยังรู้สึกกังวลในการกลับไปลงทุนในบ้านเกิดและบ่ายหน้าหาทางเลือกอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะฟองสบู่ในประเทศ และในเมื่อราคาห้องชุดหรูในกรุงเทพฯ มีราคาเพียงครึ่งเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับห้องชุดระดับเดียวกันในสิงคโปร์และมีราคาเพียง 1 ใน 5 เมื่อเปรียบเทียบกับฮ่องกง ทำให้กรุงเทพฯ คือเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนจากทั่วภูมิภาค

ขยายเวลาสิทธิการเช่า

แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) เป็นหนึ่งในโครงการที่นักลงทุนกลุ่มนี้ให้ความสนใจ ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการบนถนนราชดำริ รวมถึงคุณภาพการก่อสร้างและการตกแต่งระดับโลก อีกทั้งในปัจจุบัน ยังขยายสัญญา Leasehold จาก 30 ปีเป็น 50 ปี เพื่อให้นักลงทุนสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์กันได้แบบระยะยาว นอกจากนี้ หลังจากมีงานเปิดตัวโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ แบรนด์โรงแรมระดับไฮเอนด์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของวอลดอร์ฟในเครือฮิลตันโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ทำให้เจ้าของห้องชุดหรู MRB ได้รับเอกสิทธิ์ระดับวีไอพีเพิ่มเติมด้วย โดยเจ้าของห้องพักทุกท่านสามารถใช้บริการบาร์ และห้องอาหารชั้นนำจากเครือฮิลตันได้เช่นเดียวกับแขกของโรงแรม นับเป็นการยกระดับไลฟ์สไตล์สู่มาตรฐานสากลอย่างแท้จริง

อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า “เศรษฐกิจไทยกำลังกระเตื้องขึ้นจากการเติบโตของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยในปีที่ผ่านมา ไทยมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ 3.9% ซึ่งเกิดจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักแห่งอย่างมีนัยสำคัญที่ 9.9% ส่วนภาคการท่องเที่ยวมีอัตราส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ 20% โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากถึง 35.4 ล้านคน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในปี 2561 นี้”

เหล่านี้คือสภาพการณ์ที่ดีเยี่ยมต่อการเลือกทำเลในการลงทุน หรือแม้แต่การใช้ประโยชน์จากความพร้อมของเมืองไทยทั้งในด้านวัฒนธรรม ความบันเทิง และมูลค่าทรัพย์สินสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการอยู่อาศัย ซึ่งทำให้การซื้อมีความสมเหตุสมผลอย่างมากหากต้องการหวังผลในช่วงเวลานั้น

อสังหาฯ ระดับบนยังน่าสนใจ

ตลาดอสังหาฯ ระดับบนยังคงให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีมาก และสำหรับประเทศไทย ผลตอบแทนล้วนขึ้นอยู่กับทำเลและมาตรฐานของโครงการ ซึ่งซีบีอาร์อีเห็นพ้องกับเรื่องนี้ “ราคาที่ดินในย่านธุรกิจหลักจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปโดยเฉพาะในกลุ่มทำเลชั้นเยี่ยมที่ใกล้กับสถานีขนส่งมวลชนต่าง ๆ ซึ่งการขาดแคลนโครงการที่ให้กรรมสิทธ์แบบซื้อขาดในย่านธุรกิจหลัก จะยิ่งทำให้ราคาถีบตัวสูงขึ้นไปอีก” อลิวัสสา กล่าว

สำหรับโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เป็นอาคารรูปกลีบดอกไม้ที่อ่อนช้อยและสง่างาม ด้วยทุนก่อสร้างถึง 1,100 ล้านบาท โครงการนี้เป็นอาคาร 60 ชั้นความสูง 242 เมตร ทีมสถาปนิกได้แรงบันดาลใจมาจาก “กลีบดอกแมกโนเลีย” ที่หมุนวนจากฐานขึ้นไปสู่ส่วนยอดของอาคาร ทำให้โครงการในภาพรวมแลดูโดดเด่นสมกับเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของกรุงเทพฯ

เนื่องจาก MRB ตั้งอยู่บนถนนราชดำริ ใกล้แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญของเมืองไทยและแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้งมอลล์ โรงแรม 5 ดาว ร้านอาหารชั้นนำ ศูนย์กลางธุรกิจ และสถานบันเทิงที่เหนือระดับและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทำให้โครงการแห่งนี้ตอบสนองความต้องการด้านพักอาศัยและไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี่ได้อย่างลงตัว ซึ่งรวมไปถึงการดำเนินธุรกิจ การสร้างเครือข่าย และการติดต่อพบปะสังสรรค์ ตลอดจนการท่องเที่ยวของนักเดินทางที่หลั่งไหลมาจากประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนและทั่วโลก อีกทั้งสามารถเดินทางในกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส และความหรูหราสะดวกสบายในการใช้ชีวิตจากบริการระดับโลกของเครือฮิลตันจากโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ที่จะทำให้ไลฟ์สไตล์การพักอาศัยใน MRB เทียบชั้นโรงแรมระดับโลก

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “โครงการแมกโนเลียส์ฯ ปิดการขายห้องชุดไปแล้วกว่า 80% ปัจจัยหลักที่ทำให้เรามียอดขายที่น่าพอใจ เกิดจากทำเลที่ตั้งโครงการซึ่งถือเป็นหนึ่งในทำเลทองชั้นนำของเมืองไทย (ศูนย์กลางธุรกิจย่านราชประสงค์) ทั้งยังเป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสที่ตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยได้ดี เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์แบบไว้บริการตลอดเวลา และได้รับสิทธิพิเศษเมื่อใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากร้านค้าภายในโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ”

“ปีนี้ เรายังได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมด้วยการประสานงานกับธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพ เพื่อนำเสนอระบบเงินกู้สูงสุดถึง 70% และยังขยายสัญญา Leasehold ไปจนถึง 50 ปี (30+20 ปี) โดยสามารถขายสิทธิ์ Leasehold แก่ผู้อื่นได้ ทำให้กรรมกสิทธิ์การครอบครองและการใช้ประโยชน์จากห้องชุดมีความสมบูรณ์และคล่องตัวมากขึ้น”

เมื่อมองในแง่การลงทุน MRB คาดการณ์ว่าจะให้ผลตอบแทนจากการเช่าที่ราว 4.5 – 5% และมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับขึ้นทุกปี โดยเริ่มต้นอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตารางเมตรในช่วงพรีเซล และขึ้นมาถึง 270,000 บาทต่อตารางเมตรในปัจจุบัน

#ราชดำริ #คอนโด #แมกโนเลีย #วอลดอร์ฟ #โรงแรม #สิทธิการเช่า #ลีสโฮลด์ #Leasehold

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *